สารบัญ
บทนำ
Partner Benchmarks: รายละเอียดเจาะลึก
ดูเบื้องหลังการทำงานของกลุ่มผลิตภัณฑ์การเรียกลูกค้าทั่วไปสำหรับธุรกิจ นักพัฒนาแอป และนักการตลาดในอุตสาหกรรมโฆษณาบนมือถือทั่วโลก
ค้นพบเครือข่ายที่ดีที่สุดสำหรับกลยุทธ์การซื้อของคุณ วิธีสร้างการผสมผสานช่องทางที่สมบูรณ์แบบ และที่ที่คุณจะพบผู้ใช้คุณภาพสูงกลุ่มต่อไป เราตรวจสอบว่าธุรกิจแอปมือถือขยายตัวไปทั่วโลกอย่างไร เจาะลึกถึงแนวโน้มการเติบโตในธุรกิจเกม อีคอมเมิร์ซ และวิดีโอแบบสั้น และเราวิเคราะห์ว่าการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อแอปรับส่งอาหารอย่างไร
วิธีการ
รายงาน Partner Benchmarks จะอ้างอิงข้อมูลจากครึ่งปีแรกของปี 2021 โดย Adjust ได้รับข้อมูลการติดตั้งแบบเสียค่าใช้จ่ายกว่า 6 พันล้านครั้งและเซสชัน 160,000 ล้านรายการจาก 5,460 แอปจาก 272 เครือข่าย ลูกค้าของ ลูกค้าของ Adjust ทำธุรกิจใน 246 ประเทศ โดยส่วนใหญ่อยู่ในอเมริกาเหนือ กลุ่มประเทศ EMEA และเอเชียแปซิฟิก จากการค้นพบที่สำคัญของเรา เราได้ไฮไลต์เทรนด์ที่เกิดขึ้นทั่วอุตสาหกรรมและนำมาเปรียบเทียบกับรายงานอุตสาหกรรมรวมถึง รายงานเทรนด์บนแอปมือถือ 2021
รายงาน Partner Benchmarks มุ่งเน้นที่การมอบมุมมองโดยละเอียดให้อุตสาหกรรมได้ทราบว่ากลยุทธ์ช่องทางผสมใดที่ได้รับความนิยมสำหรับผู้ลงโฆษณาทั่วไปของ Adjust โดยผู้ใช้สามารถเลือกภูมิภาค กลุ่มธุรกิจ และแพลตฟอร์มเองได้ เช่น บริษัทอีคอมเมิร์ซหรือแอปอีคอมเมิร์ซใน LATAM สามารถเลือกกรองเฉพาะกลุ่มธุรกิจและภูมิภาคที่เกี่ยวข้องเพื่อดูช่องทางที่ได้รับความนิยมสูงสุดในตลาดของตน ตามสิ่งที่ผู้ลงโฆษณารายอื่นๆ ที่ Adjust สนับสนุนใช้จ่ายไปโดยธรรมชาติแล้ว ข้อมูลที่ใช้จะโอนเอียงไปทางการผสมผสานช่องทางเฉพาะสำหรับลูกค้าของ Adjust เนื่องจากสิ่งนี้รวมถึงลูกค้า Adjust ทั้งหมด สิ่งนี้จึงรวมถึงแอปในพอร์ตธุรกิจเกม AppLovin ที่ใช้ Adjust ในบางกรณี ในการระบุการจัดอันดับล่าสุด เราได้รวบรวมข้อมูลของอุตสาหกรรมเพื่อระบุตำแหน่งที่แน่นอนบางจุดเอาไว้
H1
มกราคม 2021 - มิถุนายน 2021
272
เครือข่ายที่ประเมิน
ราว 6 พันล้าน
จำนวนการติดตั้งที่นำมาประเมิน
ยกเว้นแบบออร์แกนิก
5000+
แอปที่นำมาวัดระดับ
ราว 160,000 ล้าน
การเปิดแอป
การค้นพบที่สำคัญ 1
ธุรกิจแอปกำลังเติบโตทั่วโลก แต่ปัจจัยที่ส่งผลต่อการเติบโตนั้นก็แตกต่างกันไปตามภูมิภาค
ธุรกิจและระบบนิเวศของแอปกำลังเติบโตมาโดยตลอดและกำลังเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายใหม่ทั่วโลก — เรื่องนี้เป็นจริงยิ่งกว่าที่เคยในช่วง 18 เดือนที่ผ่าน มา แอปทั่วโลกใช้เงินไปเกือบ 65,000 ล้าน ในครึ่งแรกของปี 2021 ถือว่าเพิ่มขึ้น 24% เมื่อเทียบ ปีต่อปี ลูกค้าทั้งในตลาดที่ตั้งตัวแล้วไปจนถึงตลาดที่การเข้าถึงอินเทอร์เน็ตมือถือได้อย่างกว้างขวางนั้นยังเป็นเรื่องใหม่อยู่ ต่างก็เริ่มทำงาน สิ่งต่างๆ ในชีวิตประจำวัน และหาสิ่งสนุกๆ ผ่านทางแอปมากกว่าเคย แต่ส่วนใหญ่แล้วตลาดแนวดิ่งที่กระตุ้นให้เกิดการเติบโตนี้มักแตกต่างกันไปตามประเทศและภูมิภาค
กลุ่มประเทศเอเชียแปซิฟิกยังคงเป็นสุดยอดผู้นำด้านเกมมือถือ โดยเฉ โดยเฉพาะญี่ปุ่นที่ทำรายได้ในไตรมาสแรกในปี 2021 ได้ถึง 5,100 ล้านดอลลาร์ ในทางกลับกัน ตุรกีซึ่งเป็นหนึ่งในประเทศที่มีการดาวน์โหลดแอป/การเข้าถึงมือถือมวลรวมสูงที่สุดในโลก ก็กำลังมีการเติบโตเพราะแรงกระตุ้นจากธุรกิจที่ไม่ใช่เกม
จำนวนการดาวน์โหลด Apple App Store และ Google Play ในตุรกีเกิดขึ้น 1,200 ล้านครั้งในไตรมาสแรกของปี 2021 และคาดว่าจะเพิ่มเป็น 5,600 ล้านครั้งในปี 2025 — คิดเป็นมากกว่าปี 2020 ถึง 44% สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้ตุรกีกลายเป็นตลาดที่ใหญ่สุดเป็นอันดับ 2 ของยุโรปตามจำนวนการดาวน์โหลดและทำให้ตุรกีกลายเป็นประเทศที่สำคัญอย่างมากสำหรับเหล่านักพัฒนาแอปและนักโฆษณาทั่วโลก ขณะที่ตลาดนี้ยังคงเติบโตและพัฒนาขึ้นต่อไป ก็คาดกันว่าการโต้ตอบและรายได้จากโฆษณาจะเพิ่มขึ้นเช่นกัน — โดยคาดว่าเงินจากผู้ใช้ App Store และ 1,600 ล้านดอลลาร์ในปี 2025 คิดเป็น 194% มากขึ้นจากปี 2020 ภาค ส่วนของแพลตฟอร์มนี้ยังมีความสำคัญในตุรกีด้วยเช่นกัน โดย Google Play ส่งผลกระทบมากกว่า App Store เพราะคิดเป็น 85% ของการดาวน์โหลดทั้งหมด
ตลาดแอปของตุรกีนั้นหลากหลายมาก และนักพัฒนาแอปก็กำลังให้ความสนใจกับแอปอื่นๆ มากกว่าแอปเกม ในปัจจุบัน แอป 71%ที่นักพัฒนาแอปชาวตุรกีได้เปิดตัวใน Google Play เป็นแอปที่ไม่ใช่เกม ตลาด ตลาดแนวดิ่งที่โดดเด่นและเติบโตเร็วที่สุดคือด้านสุขภาพและการออกกำลังกาย ธุรกิจ และการศึกษา
สำหรับด้านสุขภาพและการออกกำลังกาย เซสชั่นในปี 2021 มากถึง 120% เมื่อเทียบกับปี 2020 โดยเฉลี่ย สำหรับธุรกิจประเภทการศึกษา เซสชั่นจะเพิ่มขึ้น 10%
120%
สุขภาพและการออกกำลังกาย
นักพัฒนาแอปและผู้ทำโฆษณาที่อาศัยประโยชน์จากการเติบโตครั้งใหญ่นี้ในตลาดประเทศตุรกีจะได้รับผลตอบแทนจากการใช้งานแอปและเงินที่คนจ่ายมากขึ้นซึ่งคาดการณ์กันไว้ ณ ตอนที่ตลาดยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง Facebook, Google, AppLovin และ Unity เป็นเครือข่ายอันดับต้นๆ ในทุกประเภทธุรกิจของตุรกี เครือข่ายอื่นๆ ที่มีความโดดเด่นสำหรับผู้จัดการด้านการเรียกลูกค้า (UA) เล็งว่าจะรวมเข้ากับการกระจายรายจ่าย โดยมี Headway และ App Samurai ซึ่งทำผลประกอบการได้ดีโดยเฉพาะในตลาดอีคอมเมิร์ซและธุรกิจตามลำดับการเติบโตของธุรกิจแอปในเอเชียแปซิฟิกชี้ให้เห็นสิ่งที่ต่างออกไป จุดสนใจหลักของนักพัฒนาแอปในภูมิภาคนี้ เช่น ญี่ปุ่น ซึ่งการใช้จ่ายของผู้บริโภคบนมือถือสูงถึง 20,000 ล้านดอลลาร์ในปี 2020 (เพิ่ม 20% เมื่อเทียบปีต่อปี) และขนาดของตลาดเกมมือถือก็สูงถึง 13,900 ล้านดอลลาร์
ข้อมูลของ Adjust ชี้ให้เห็นว่ามีการดาวน์โหลดและติดตั้งเกมเพิ่มขึ้น 41% ในปี 2021 (เทียบกับปี 2020) และการติดตั้งแบบไฮเปอร์แคชชวลก็เพิ่มขึ้น 31% หลังจากเพิ่มขึ้นอย่างน่าประทับใจ 45% ระหว่างปี 2019 ถึงปี 2020 เซสชั่นยังเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยตลาดเกมเพิ่มขึ้น 23% ในปี 2021 และไฮเปอร์แคชชวลเพิ่มขึ้น 12% ซึ่งเกิดหลังการเพิ่มขึ้น 42% และ 99% ระหว่างปี 2019 - 2020 ตามลำดับ
Facebook และ Google Ads เป็นอันดับต้นๆ ในแง่ของการใช้จ่ายค่าโฆษณาในธุรกิจและตลาดส่วนใหญ่ในเอเชียแปซิฟิก แต่การแยกสาขาออกเป็นปัจจัยสำคัญสำหรับกลยุทธ์การซื้อแบบองค์รวม เครือข่ายต่างๆ เช่น Apple Search Ads, Line และ TikTok ทั้งหมดทำผลงานได้ดีในภูมิภาคนี้ และเครือข่ายระดับภูมิภาค เช่น Line, Skyfall และ Nend สามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าเฉพาะกลุ่มต่างๆ ได้มากขึ้น และได้รับความสนใจจากกลุ่มที่อาจกลายเป็นผู้ใช้ได้หลากหลายกลุ่ม ในแง่นี้ เครือข่ายเหล่านี้แสดงให้เห็นถึงความสำคัญของความชำนาญในถิ่นนั้นๆ และสร้างกรณีที่ดีให้กับผู้จัดการ UA ที่ต้องการสร้างความได้เปรียบในภูมิภาคนี้
การค้นพบที่สำคัญ 2
ธุรกิจเกมยังคงเป็นหมวดหมู่ที่ขับเคลื่อนการเรียกลูกค้าที่ใหญ่ที่สุด
โดยเป็นกลุ่มธุรกิจอันดับต้นๆ บนมือถือและยังคงรักษาตำแหน่งของตนไว้ต่อไปด้วยการมุ่งพัฒนาและสร้างนวัตกรรมอย่างต่อเนื่อง
จากแอป 5,460 แอปทั่วทุกภูมิภาคและประเภทธุรกิจ ข้อมูลทั่วโลกของ Adjust แสดงให้เห็นว่าการเล่นเกมคิดเป็น 50% ของค่าโฆษณา UA ทั้งหมดในทุกประเภทธุรกิจบริษัทในเอเชียแปซิฟิกใช้จ่ายมากที่สุด โดย 64% ของการใช้จ่ายค่า UA ด้านเกมมาจากภูมิภาคนี้ประเภทธุรกิจย่อยทั่วโลกที่ติดอันดับสูงสุดคือเกมปริศนา (16%) แต่ในเอเชียแปซิฟิกกลับเป็นเกมแนวสวมบทบาท (23%)
การดาวน์โหลดแอปเกมในปี 2021
ธุรกิจเกมยังคงเป็นประเภทธุรกิจที่ใหญ่ที่สุดในปี 2021 โดยคิดเป็นสัดส่วน กึ่งหนึ่งของการดาวน์โหลดทั้งหมดใน iOS และ 21% ใน Android ผลการศึกษาที่ช่วยยืนยันเรื่องนี้ก็คือ รายงานเทรนด์แอปทั่วโลกของ Adjust ซึ่งแสดงให้เห็นว่าเซสชั่น การดาวน์โหลดและติดตั้ง เวลาที่ใช้ในแอป และจำนวนเซสชั่นต่อวันนั้นเพิ่มขึ้นอย่างมาก คาดกันว่าในปี 2023 จะมีผู้เล่นจ่ายเงินถึง 117,000 ล้านดอลลาร์ทั้งใน Android และ iOS ตามการายงานของ GamesIndustry.biz คาดกันว่าพอสิ้นปี 2030 ธุรกิจเกมมือถือจะคิดเป็นมูลค่าของอุตสาหกรรมแอปถึง 272,000 ล้านดอลลาร์ โดยในปี 2020 เองก็มีมูลค่าถึง 98,000 ล้านดอลลาร์ไปแล้ว
การเปรียบเทียบข้อมูลของ Adjust พบว่าธุรกิจเกมคิดเป็น 50% ของโฆษณาทั้งหมดที่จ่ายกันในอุตสาหกรรมนี้ เมื่อเทียบกับประเภทธุรกิจอันดับสอง (อีคอมเมิร์ซ) ซึ่งคิดเป็น 16% เท่านั้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ซึ่งการกระจายค่าโฆษณาสำหรับแอปเกมที่วัดโดย Adjust นั้นสูงถึง 64% (ตามมาด้วยสิ่งพิมพ์ที่ 11%) ในอเมริกาเหนือ ตัวเลขดังกล่าวสูงถึง 57% (ตามด้วยฟินเทคที่ 14%) และใน EMEA อยู่ที่ 39% (ตามด้วยอีคอมเมิร์ซที่ 27%)
AppLovin และ IronSource เป็นบริษัทเด่นในธุรกิจประเภทนี้ ขณะที่ Facebook, Google Ads, TikTok, Unity และ Mintegral ก็อยู่ในอันดับต้นๆ เช่นกัน
เมื่อพิจารณาถึงต้นทุนการติดตั้งในเครือข่ายเหล่านี้ทั่วโลกแล้ว Apple ถือว่าเป็นผู้นำกลุ่มด้วยเงิน 3.86 ดอลลาร์ การติดตั้งจาก Facebook มีค่าใช้จ่าย 1.02 ดอลลาร์ในขณะที่ Google Ads อยู่ที่ 0.91 ดอลลาร์ AppLovin, ironSource และ Mintegral อยู่ที่ 0.58 ดอลลาร์, 0.39 ดอลลาร์และ 0.19 ดอลลาร์ตามลำดับ
ไฮเปอร์แคชชวลยังคงเป็นส่วนสำคัญต่อการเติบโตของ UA โดยรวมของธุรกิจเกม
เกมไฮเปอร์แคชชวลที่โดดเด่นด้วยการเป็นเกมที่ใช้พื้นที่น้อย เล่นได้ทันที และเล่นซ้ำได้ไม่รู้จบ กำลังขยายคำจำกัดความดั้งเดิมของนักเล่นเกม และทำให้เกมประเภทนี้เป็นตัวขับเคลื่อนการเติบโตที่ทรงพลังในธุรกิจเกมในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา รายงานเทรนด์แอปทั่วโลกของ Adjust ชี้ว่าการติดตั้งและเซสชั่นเพิ่มขึ้น 43% และ 36% สำหรับไฮเปอร์แคชชวลในปี 2020 ซึ่งเพิ่มขึ้นอีก 44% ในช่วงสามไตรมาสแรกของปี 2021 เซสชันไฮเปอร์แคชชวลเพิ่มขึ้นสูงถึง 72% จากค่าเฉลี่ยปี 2020 ในช่วงกลางเดือนมีนาคม เนื่องจากการล็อกดาวน์ทั่วโลก แม้หลังจากการเติบโตครั้งใหญ่ในปี 2020 เซสชั่นต่างๆ ก็ยังคงเติบโตได้อีก 2% ในปีนี้ ซึ่งเป็นการเติบโตที่จะคิดเป็น 25% หากไม่รวมจุดสูงสุดที่กล่าวไว้ก่อนหน้านี้
ในเอเชียแปซิฟิกเองก็ไม่มีข้อยกเว้น ในปี 2020 ข้อมูล Adjust รายงานว่าจำนวนเซสชั่นเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในตลาดเอเชียแปซิฟิกทั้งหมด โดยการเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบปีต่อปีในญี่ปุ่นนั้นสูงถึง 99% แนวทางการเติบโตนั้นเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในปี 2021 อีก 10%
ญี่ปุ่น
เซสชั่นในญี่ปุ่นเพิ่มขึ้น
99% เมื่อเทียบปีต่อปี
ค่าใช้จ่ายในการเรียกลูกค้าลดลงในทุกภูมิภาค แต่การเรียกลูกค้าในสหรัฐอเมริกายังคงมีค่าลงทุนมากกว่า (0.55 ดอลลาร์) เมื่อเทียบกับใน EMEA (0.15 ดอลลาร์) ในระดับโลก CPI โดยเฉลี่ยจะอยู่ที่ประมาณ 0.25 ดอลลาร์อุตสาหกรรมเกมมือถือซึ่งเติบโตอย่างทวีคูณในปี 2020 ยังคงเติบโตในปี 2021 ด้วยปัจจัยมากมายรวมถึงคุณภาพเกมระดับ AAA ที่เพิ่มขึ้น รูปแบบการสมัครสมาชิกที่หลายบริษัทต่างนำมาใช้กันมากขึ้น และนักพัฒนาแอปชาวจีนที่เข้าสู่ตลาดมากขึ้น อุตสาหกรรมยังคงกระจายความหลากหลายเพื่อเข้าถึงกลุ่มประชากรและเกมเมอร์ประเภทใหม่ๆ ในฐานะประเภทธุรกิจที่เติบโตสูงสุดบนมือถือ เกมยังคงท้าทาย ขัดขวาง และบุกเบิกโลกแห่งแอปหากคุณเป็นนักพัฒนาเกม Facebook, Google Ads, AppLovin, Unity, Apple Search Ads, ironSource และ Mintegral ล้วนเป็นสถานที่ที่ยอดเยี่ยมในการทำ UA หากไม่เช่นนัก พัฒนาเกม ธุรกิจเกมก็นำเสนอโอกาสในการเรียนรู้ที่มีคุณค่าสำหรับธุรกิจประเภทอื่นๆ บนมือถือ สิ่งที่ UA ในวงการธุรกิจเล่นเกมโดยทั่วไปมักมีคือ ระบบอัตโนมัติราคาแพงและการทดสอบ A/B ซึ่งสามารถช่วยได้ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจประเภทไหน และกระบวนการแปลงเป็นเกม ก็กำลังกลายเป็นเทรนด์ปกตินอกวงการแอปเกมเช่นกัน
การค้นพบที่สำคัญ 3
เอเชียตะวันออกเฉียงใต้เป็นผู้นำการเติบโตอย่างมากในธุรกิจเอ็มคอมเมิร์ซ ทำให้พาร์ทเนอร์หน้าใหม่ๆ ได้เติบโตในเวทีนี้
ในฐานะที่เป็นตลาดที่เน้นอุปกรณ์เคลื่อนที่เป็นหลัก และมักจะเป็นตลาดที่มีแต่มือถือเท่านั้น รายงานล่าสุดแสดงให้เห็นว่าเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (SEA) มีศักยภาพสูงกว่าจีนและอินเดีย ในด้านส่วนแบ่งร้านค้าปลีกดิจิทัล ผู้ใช้ออนไลน์ประมาณ 70 ล้านคนได้มาจากภาคธุรกิจเอ็มคอมเมิร์ซในช่วงการระบาดของโรคโควิด-19 (ไปยังแพลตฟอร์มอย่าง Shopee, Lazada, Tiki และ Tokopedia) และมีแนวโน้มว่าจะสูงขึ้นเรื่อยๆ โดยผู้บริโภคในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้คาดว่าจะซื้อสินค้าออนไลน์ต่อไป คาดกันว่า การชอปปิงออนไลน์ 75% ที่เกิดขึ้นในปัจจุบันนั้นจะยังคงเพิ่มขึ้นต่อไปหลังการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และเมื่อสิ้นปี 2021 จะมี ผู้บริโภคดิจิทัล 350 ล้านคนในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ นับว่าเป็นจำนวนที่เท่ากับ 80% ของผู้บริโภคทั้งหมดในภูมิภาคนี้ ว่ายอดขายจะเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าในอีก 5 ปีข้างหน้าจนมีมูลค่า 254,000 ล้านดอลลาร์ในปี 2026
ข้อมูลของ Adjust ชี้ให้เห็นและยืนยันแนวโน้มการเติบโตและการคาดคะเนเหล่านี้ โดยแสดงให้เห็นว่าการติดตั้งแอปอีคอมเมิร์ซในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เติบโตขึ้น 18% ในปี 2021 เมื่อเทียบกับปี 2020 (ปีที่เห็นแล้วว่ามีการเติบโตที่น่าสนใจ)
ผู้ลงโฆษณาส่วนใหญ่อาศัยการผสมผสานระหว่างโซเชียลมีเดียและอีคอมเมิร์ซทั่วทั้งภูมิภาค และยอดขายโซเชียลคอมเมิร์ซในปัจจุบันคิดเป็นสัดส่วน 44% ของตลาดที่มีมูลค่า 109,000 ล้านดอลลาร์ แนวโน้มสำคัญประการหนึ่งที่ขับเคลื่อนการค้าทางสังคมในเอเชียแปซิฟิกคือการสตรีมสดโดยแอปอีคอมเมิร์ซและแบรนด์ โดยผู้เล่นชั้นนำใช้การผสานรวมโซเชียลมีเดียขั้นสูงและตัวเลือกการชำระเงินดิจิทัลเพื่อดึงดูดลูกค้าผ่านการขายสด กลยุทธ์การโต้ตอบแบบไมโคร มินิเกม และ โปรแกรมการตลาดอินฟลูเอนเซอร์ที่ขับเคลื่อนโดยคนดัง วิธีการเหล่านี้ประสบความสำเร็จอย่างมากในการสร้างประสบการณ์การชอปปิงคุณภาพสูงที่กระตุ้นให้เกิดคอนเวอร์ชัน Charlotte Wright ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเติบโตประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกของ Wavemaker กล่าวว่า “โซเชียลมีเดียเป็นส่วนสำคัญในการสร้างแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซที่ยอดเยี่ยม” ในภูมิภาคนี้
ในขณะที่ Google และ Facebook ยังคงเป็นช่องทางการตลาดที่โดดเด่นที่สุดสำหรับผู้จัดการการเรียกลูกค้า (UA) ในอีคอมเมิร์ซที่ต้องการใช้จ่ายในภูมิภาคนี้ เครือข่ายต่างๆ เช่น TikTok, Affle, Naver, Kakao, Inmobi, Appier, Appnext และ Pokkt กำลังเป็นที่น่าสนใจ และอาจเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับกลยุทธ์การซื้อของคุณ เมื่อแยกสาขาออกจากเครือข่ายชั้นนำและการลงทุนด้านงบประมาณในพันธมิตรรายใหม่หรือรายย่อยที่ขับเคลื่อนการเติบโต ผู้จัดการ UA ก็สามารถปลดล็อกช่องทางใหม่สำหรับการติดตั้งที่มีคุณภาพสูงและเพิ่มความสามารถในการเข้าถึงผู้ใช้ออนไลน์และผู้ซื้อในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
18%
เติบโตใน
E-COMMERCE
ติดตั้ง
ในปี 2021
การค้นพบที่สำคัญ 4
แอปรับส่งอาหารเติบโตอย่างต่อเนื่องหลังจากการเติบโตที่ขับเคลื่อนด้วยการระบาดของโควิด-19 อย่างมหาศาล
การให้บริการผู้บริโภคด้วยบริการที่ปลอดภัย ห่างไกลจากสังคม และสะดวกสบาย อาหารและเครื่องดื่มจึงเป็นหนึ่งในธุรกิจหลักที่ดำเนินการทั่วโลกได้ดีเป็นพิเศษตลอดช่วงล็อกดาวน์ ทั้งแอปอาหารและเครื่องดื่มและบริการส่งอาหารได้รับผู้ใช้ใหม่จำนวนมากเนื่องจากความสนใจในการทำอาหารเพิ่มขึ้นและการจัดส่งอาหารก็เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ในเดือนมีนาคมปี 2020 พบว่า 75% ของผู้บริโภคชาวอเมริกันระบุว่าพวกเขาอาจจะซื้อสินค้าจากร้านของชำออนไลน์หากมีการล็อกดาวน์ ซึ่งเป็นเรื่องจริงเมื่อบริการขายของชำ Instacart รายงานทางบริษัททำตามเป้าปี 2022 ได้ เมื่อเข้าสู่สัปดาห์ที่สามของการล็อกดาวน์ในสหรัฐอเมริกา
การเติบโตอย่างมหาศาลของอุตสาหกรรมแอปอาหารในปี 2020 มักถูกมองข้ามเนื่องจากความต้องการที่ไม่เป็นจริง โดย ยอดขายเพิ่มขึ้น 122% เมื่อเทียบปีต่อปีทุบสถิติที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ว่าโตแค่ 38%
อย่างไรก็ตาม พฤติกรรมผู้ใช้ยังคงเหมือนเดิมตลอดปี 2021 และแม้จะมีข้อจำกัดที่ผ่อนคลายในบางภูมิภาค การเติบโตยังคงดำเนินต่อไป และรายได้จากแอปส่งอาหารคาดว่าจะเพิ่มสูงขึ้นในตลาดทั่วโลก ในสหรัฐอเมริกา รายได้คาดว่าจะแตะ 28,000 ล้านดอลลาร์ ปีนี้ เพิ่มจาก 26,000 ล้านดอลลาร์ในปี 2020 และคาดว่าจะสูงถึง 42,000 ล้านดอลลาร์ภายในปี 2025
การคาดการณ์การเติบโตของรายได้จากแอปรับส่งอาหาร
ถือว่าเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นคล้ายกันในสหราชอาณาจักรโดยคาดว่าจะเติบโตถึง 6,500 ล้านดอลลาร์ในปี 2021 เพิ่มขึ้นจาก 5,900 ล้านดอลลาร์ในปี 2020 ในยุโรป ตัวเลขดังกล่าวคาดว่าจะสูงถึง 20,500 ล้านดอลลาร์ในปีนี้ ซึ่งสูงกว่าปีที่แล้วที่ 18,900 ล้านดอลลาร์ หากเราลองมองอุตสาหกรรมทั่วโลกในภาพรวม Business of Apps คาดว่ามูลค่าของแอปรับส่งอาหารจะเพิ่มขึ้นเป็น 120,000 ล้านดอลลาร์ภายในสิ้นปี 2021 และแตะ 300,000 ล้านดอลลาร์ภายในปี 2027 การเติบโตของแอปรับส่งอาหารไม่ได้ชะลอตัวลงไม่ว่าจะเกิดโรคระบาดหรือไม่ก็ตาม
การรับส่งอาหารยังมีความหลากหลายอีกด้วย โดยผู้เล่นหลักเช่น Gopuff, Gorillas, Flink และแอปรับส่งเร็วรายอื่นๆ แอปบริการตามต้องการ บริการจัดส่งของชำในร้านมืดมีความโดดเด่นมากขึ้นในช่วง 18 เดือนที่ผ่านมา ปัจจุบัน Gorillas ที่ก่อตั้งขึ้นในปี 2020 ทำธุรกิจใน 55 เมืองและ 9 ประเทศ และมูลค่า 1,000 ล้านดอลลาร์ ทำให้กลายเป็นธุรกิจสตาร์ทอัปที่โตเร็วที่สุดในเยอรมนีจนกลายเป็นยอดธุรกิจหนึ่งเดียว
App Store ขับเคลื่อนการเติบโตส่วนใหญ่ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมาในสหรัฐอเมริกา โดยการติดตั้งใหม่ 73% มาจากแพลตฟอร์มนี้ ในยุโรป Play Store มีการติดตั้งใหม่เป็นส่วนใหญ่ โดยคิดเป็น 58% ของการดาวน์โหลดทั้งหมด และในช่วงสองเดือนแรกของปี 2021 การดาวน์โหลดแอปอาหารและเครื่องดื่มในยุโรปอยู่ที่ 74 ล้านครั้ง ซึ่งคิดเป็น 82% ของการดาวน์โหลดทั้งหมดในปี 2020 หาก การล็อกดาวน์จุดชนวนการเติบโตอย่างล้นหลามสำหรับธุรกิจประเภทนี้ ก็แปลว่าผู้ใช้ยังคงชอบแอปประเภทนี้อยู่
ข้อมูลของ Adjust ยังบ่งชี้ว่าการเติบโตของแอปอาหารและเครื่องดื่มมีแนวโน้มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยไม่มีสัญญาณว่าจะหยุด การติดตั้งทั่วโลกในปี 2020 เพิ่มขึ้น 19% เมื่อเทียบกับปี 2019 และเพิ่มขึ้นอีก 20% จนถึงปี 2021 การเติบโตของเซสชั่นนั้นน่าประทับใจยิ่งขึ้น โดยในปี 2020 เพิ่มขึ้น 71% เมื่อเทียบกับปี 2019 และในปี 2021 เพิ่มขึ้นอีก 34% จนถึงตอนนี้
ในบรรดาเครือข่ายที่ขับเคลื่อนการเติบโตนี้ Google Ads, Facebook และ Apple Search Ads มีส่วนแบ่งมากที่สุด แต่ Snap และ TikTok ก็ติดห้าอันดับแรกเช่นกัน ตามมาด้วย AppLovin, Headway และ Digital Turbine หากคุณต้องการกระจายการใช้จ่ายนอกแพลตฟอร์มโซเชียล สามตัวเลือกหลังนี้ก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ
การค้นพบที่สำคัญ 5
โซเชียลมีเดียมีปัจจัยขับเคลื่อนการเติบโตใหม่ นั่นคือวิดีโอสั้น
วิดีโอแบบสั้นได้กลายเป็นแรงผลักดันใหม่สำหรับโซเชียลมีเดีย โดยมี TikTok, Instagram Reels และแอปอื่นๆ มากมาย (Snapchat Spotlight, YouTube Shorts ฯลฯ) ที่ครองพื้นที่ที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา เนื่องจากฐานผู้ใช้และเวลาโดยรวมที่ใช้ไปกับวิดีโอแบบสั้นเพิ่มขึ้น พลังของวิดีโอประเภทนี้ก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน ซึ่งได้พัฒนาเป็นส่วนหนึ่งของโซเชียลคอมเมิร์ซรายใหญ่ ลองดูที่สหรัฐอเมริกา TikTok เป็นผู้ครองธุรกิจนี้โดยไม่ต้องสงสัย, แต่ Instagram, YouTube และแพลตฟอร์มยืนเดี่ยวอื่นๆ เช่น Triller และ Dubsmash ก็เริ่มมีส่วนแบ่งในตลาดนี้ด้วยเช่นกัน
TikTok ที่มีผู้ใช้ปัจจุบัน 1 พันล้านคนและดาวน์โหลด 3 พันล้านครั้ง ทั่วโลก เป็นตัวเลือกหลักสำหรับนักการตลาดที่มองหาตลาดการแข่งขันระยะสั้นๆ ช่นเดียวกับแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียทั้งหมด TikTok นำเสนอโอกาสในการรวมการชอปปิงเข้ากับประสบการณ์ผู้ใช้โดยรวม เมื่อมีผู้ใช้แอปนี้วันละประมาณ 52 นาที และเอาชนะ YouTube ในเวลาต่อมาเมื่อเทียบกับเรื่องเวลาเล่นแอปโดยประมาณในสหรัฐอเมริกาและสหราชอาณาจักร มีโอกาสมากมายที่จะขับเคลื่อนการมีส่วนร่วม แต่ก็มีการแข่งขันสูงเช่นกัน
ในเดือนตุลาคมปี 2020 แอป TikTok ได้รวมเข้ากับ Shopify ทำให้ผู้ขายบน Shopify ที่มี TikTok for Business สามารถเพิ่มแท็บขายของในโปรไฟล์ TikTok และซิงค์แคตตาล็อกผลิตภัณฑ์เพื่อสร้างหน้าร้านเล็กๆ ไว้ให้เลือกซื้อของได้โดยตรงอีกด้วย
แพลตฟอร์มดังกล่าวยังทำการทดสอบสตรีมมิงแบบสดที่ซื้อได้จาก Walmart ซึ่งเป็นโปรเจ็กต์ที่รวบรวมผู้สร้าง 10 คนมารวมกัน เมื่อใครก็ตามที่ดูสตรีมเห็นสิ่งที่ต้องการซื้อ คนเหล่านั้นก็สามารถคลิกเพื่อซื้อได้
5W Public Relations ทำรายงานล่าสุดเกี่ยวกับวัฒนธรรมผู้บริโภคโดยพบว่า 28% ของผู้ใช้ ซื้อของที่โฆษณาใน TikTok อย่างน้อย 1 ครั้ง
Instagram Reels มีฟังก์ชันการทำงานที่คล้ายคลึงกัน ช่วยให้ครีเอเตอร์แท็กผลิตภัณฑ์ที่แสดงบน Reels ได้ และช่วยให้ผู้ใช้บันทึกหรือซื้อสินค้าโดยตรงผ่านปุ่ม "ดูผลิตภัณฑ์"
เมื่อมี 84% ของผู้ใช้กล่าวว่า ยินดีซื้อสินค้าหรือบริการจากการดูวิดีโอของแบรนด์ ผู้ชมก็มีสัดส่วนเพิ่มเป็น 95% ของการรับส่งข้อความผ่านวิดีโอแบบสั้นและ 93% ของแบรนด์ ระบุว่าได้ลูกค้าใหม่ๆ จากวิดีโอแบบสั้นในโซเชียลมีเดีย นับว่าเป็นพลังของวิดีโอประเภทนี้ที่ทำให้มีบทบาทสำคัญมากจนควรนำไปใช้กับกลยุทธ์การเรียกลูกค้า (UA)
ไม่น่าแปลกใจเลยที่ Google Ads, TikTok, Snap, Apple Search Ads และ Facebook ที่ครองการจัดอันดับในทุกกลุ่มธุรกิจ และทั้งบน iOS และ Android ในประเภทธุรกิจของโซเชียลมีเดีย